1.ฐานราก หรือ (Foundation) คือส่วนประกอบที่รับนำหนักของอาคาร ซึ่งรวมน้ำหนักของอาคาร แล้วถ่ายลงมายังเสาผ่านฐานรากและลงสู่ดิน ฐานรากสามารถแบ่งประเภทตามวิธีถ่ายน้ำหนักได้คือ
1.1 ฐานรากแผ่ ( Shallow foundation ) ซึ่งหมายถึงฐานรากที่ไม่ใช้เสาเข็ม ฐานรากจะใช้ตัวมันเอง ถ่ายน้ำหนักอาคารลงไปยังดิน หรือหินที่รองรับ ดังนั้นฐานรากจึงต้อง มีขนาดใหญ่พอที่จะกระจายน้ำหนักให้แผ่ลงดิน หรือหิน หรือมิเช่นนั้น ดิน หรือหินที่รองรับฐานราก ต้องแข็งแรง เพราะมิเช่นนั้นแล้ว เมื่อน้ำหนักอาคารมาก ๆ หรือดิน หิน ที่รองรับฐานรากมีกำลังต้านทานน้อยขนาดฐานรากจะใหญ่โตเกินความจำเป็น ควรใช้ฐานรากอีกชนิดหนึ่งคือ ฐานรากแผ่ เป็นฐานรากที่แผ่ไปกับพื้น ไม่มีเข็มมารองรับ เหมาะสำหรับดินที่มีความแข็งแรงอยู่แล้ว เช่น บริเวณดินเชิงเขา หรือดินต่างจังหวัดที่เป็นดินแข็ง
1.2 ฐานรากวางบนเสาเข็ม ( Piled foundation ) ฐานรากแบบมีเข็ม ใช้ในบริเวณที่มีสภาพดินอ่อน เช่น กรุงเทพมหานคร ฐานรากชนิดนี้ จะรับน้ำหนักจากเสา ถ่ายลงเสาเข็ม และดิน ตามลำดับ น้ำหนักอาคารที่ถ่ายลงฐานรากจะถ่ายต่อไปยังเสาเข็ม เสาเข็มอาจต้านทานน้ำหนักโดยอาศัยความฝืด หรือแรงเสียดทาน (Friction) ระหว่าง ผิวเสาเข็มกับดินที่อยู่รายรอบ หรือหากเสาเข็มยาวมากพอ เช่น ถูกตอกลงไปวางบนชั้นดินที่แข็งมาก หรือชั้นหิน (Hard strata) ก็จะต้านทานน้ำหนักโดยอาศัยทั้งความฝืด และแรงแบกทาน(Bearing) ที่ ปลายเสาเข็ม น้ำหนักบนชั้นดินแข็ง หรือชั้นหิน
ในการทำฐานราก ต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษ ตั้งแต่การเลือกใช้ฐานรากตามสภาพของดิน ควรใช้วัสดุก่อสร้างตามแบบ วิศวกรรม โดยเคร่งครัด ไม่ตัดลดขนาด ปูนที่ใช้ทำฐานรากต้องใช้ปูนโครงสร้าง (Portland Cement) ซึ่งจะมีราคาแพงกว่าปูนฉาบ เพราะหากฐานราก ทรุดตัวแล้ว ย่อมก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมากมายแก่บ้าน หรืออาคารทั้งยากต่อการแก้ไขด้วย อัตราส่วนของ ปูน : ทราย : หิน ที่ใช้ในงานฐานราก งานถนน คือ 1 : 2.5 : 4 ควรใช้ปูนโครงสร้างดังที่กล่าวมาแล้ว ตลอดจนมั่นใจว่า หินและทราย มีความสะอาดเพียงพอ
ในขั้นแรกนั้น ควรมีการเทคอนกรีตหยาบทับหน้าดิน (เทลีน)
ก่อนเทควรมีการทำความสะอาดเสาเข็ม และใช้ไฟเบอร์ตกแต่งเข็ม ให้ได้ระดับ เสียก่อน แล้วเทคอนกรีตหยาบให้เสาเข็มโผล่พ้นคอนกรีตหยาบประมาณ 5 ซม. เพื่อให้มั่นใจว่า ฐานราก ได้นั่งถ่ายแรงลงบน เสาเข็ม การเทคอนกรีตหยาบนั้นก็เพื่อ เป็นท้องแบบวางตะแกรงเหล็กฐานราก หลังจากนั้นใช้ ลูกปูน หนุนตะแกรงเหล็ก ทั้งด้านล่าง และด้านข้าง (ประมาณ 5 ซม.) เพื่อให้ปูนสามารถหุ้มเหล็กได้ทั้งหมด ก่อนการเทควร ทำให้พื้นที่ ที่จะเท มีความชุ่มชื้น ป้องกันดิน ดูดน้ำจากคอนกรีต ซึ่งจะทำให้คอนกรีตลดความแข็งแรงลง อีกทั้งต้องทำ ความสะอาดตรวจเช็ค ให้แน่ใจ ก่อนการเทว่า ไม่มีคราบโคลน หรือคราบปูนทราย ที่หลุดง่ายติดอยู่ ในระหว่างการเท ต้องมีการกระทุ้งคอนกรีตด้วยมือ หรือใช้เครื่องสั่น (Vibrator) ป้องกันไม่ให้ เกิดโพรงหรือ ช่องว่างในเนื้อ คอนกรีต ในฐานราก
งานโครงสร้างคอนกรีต
รูปแบบของงานเข็มในรูปแบบต่าง ที่ถูกนำมาใช้เพื่อรับน้ำหนักอาคารบ้านเรือน แตกต่างกันไปตามประเภทของเข็มนั้นๆ ดังนั้น จึงควรมีการเลือกใช้ให้เหมาะสมกับงาน หรือรูปแบบของอาคาร
1. เข็มเจาะ ปัจจุบันเป็นที่นิยมมากขึ้น ในกรณีที่จะนำมาใช้กับบ้าน เนื่องจากเทคนิค และวิธีการไม่ยุ่งยากมาก และราคาก็ไม่แพง ดังที่คิด เราใช้เข็มเจาะเมื่อมีความจำเป็นจะต้องตอกเข็มใกล้ๆ กับบ้านของคนอื่น เช่น ห่าง 0.80 เมตร โดยไม่อยากให้บ้านข้างเคียง มีปัญหาแตกร้าว ทรุด หรือซอยที่เข้าพื่นที่ก่อสร้าง มีขนาดแคบมากไม่สามารถจะขนส่งเสาเข็มต้นยาวๆ มาตอกได้ จึงจำเป็นจะต้อง ใช้เข็มเจาะ
หลักการของเข็มเจาะก็คือ ใช้การขุดดินผ่านท่อเหล็กกลมกลวง ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 35 เซนติเมตรขึ้นไป แล้วแต่ การรับน้ำหนัก ของอาคาร โดยที่ปลาย 2 ข้างเป็นเกลียวหมุนต่อเนื่องลงไปในดิน เข็มเจาะสำหรับบ้านมักจะลึกโดยเฉลี่ย 21 เมตร (ผลการเจาะสำรวจ ชั้นดินในทางวิศวกรรม โดยปกติชั้นดินทรายที่รับน้ำหนักในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จะลึกโดยประมาณ 19-22 เมตร) แล้วก็ตอก ท่อเหล็กกลมลงไปทีละท่อน แล้วขุดดินขึ้นมา ตอกลงไป จนได้ระดับความลึกที่ต้องการ แล้วจึงผูกเหล็ก ตามสเปค หย่อนลงไปในท่อ เทคอนกรีตตามส่วน จากนั้นจึงค่อยๆ ดึงท่อเหล็กขึ้นมาช้าๆ ทีละท่อนจนหมด แล้วจึงปิดปากหลุม รอจนกว่าปูนแห้งก็เป็นอันเสร็จพิธี จะเห็นได้ว่าความสะเทือนที่เกิดขึ้นรอบๆ เข็มเจาะนั้นน้อยกว่าระบบการใช้เข็มตอกลงไป ต่อกันเป็นท่อนๆ จนกว่าจะครบเป็นไหนๆ
2. เข็มกด เป็นการลดความสะเทือนในการตอกเข็มอีกวิธีหนึ่ง และไม่ค่อยยุ่งยากใช้กับโครงสร้างที่ไม่ใหญ่โตหรือรับน้ำหนักมากนัก เช่น โรงรถ กำแพงรั้ว ห้องครัวชั้นเดียว หรืองานเร่งด่วนที่ไม่ต้องการตั้งปั่นจั่น เข็มกดเป็นวิธีการที่ใช้รถแบ็คโฮ ดึงเสาเข็ม คสล. รูปหน้าตัด 6 เหลี่ยม ขนาดยาวต้นละ 6 เมตร มากดโดยใช้แขนเหล็กของรถแบ็คโฮกดลงไป ซึ่งจะไม่มีความสะเทือนกับรอบๆ ข้าง วิธีนี้สะดวกและรวดเร็วแต่ให้ระวังแนวเสาเข็มต้องตั้งให้ตรงแล้วจึงกด ไม่เช่นนั้นเสาจะเบี้ยวหรือหัก หรือทำให้รับน้ำหนัก ได้ไม่ดีเท่าที่ควร
ทีนี้มาดูขั้นตอนการทำงานพื้นฐานรากงานโกดังสำเร็จรูปกันค่ะ
1. เตรียมพื้นที่ปรับดินและบดอัดเรียบร้อยค่ะ
2. ทดสอบค่าการบดอัดดิน สำหรับงานบดอัดในส่วนของพื้นอาคารค่ะ เพื่อหาค่าการรับน้ำหนักของดิน ต่อ พื้นที่ 1 ตารางเมตร
3. เริ่มจากลงเข็มค่ะ (เข็มเจาะ) **อ่านเรื่องฐานรากแบบต่างๆด้านบนนะคะ
4. เท Lean หรือคอนกรีตหยาบก่อนทำฐานราก
5. งานตัดสกัดหัวเข็ม ต้องตัดให้เรียบ แล้วทำความสะอาดนะคะ
6. เข้าแบบ พร้อมวางเหล็กเสริมฐานราก และตอม่อ เพื่อรับเสาโครงสร้างของอาคารโกดังสำเร็จรูปค่ะ
7. เทคอนกรีตฐานราก พร้อมจี้ปูนเพื่อไม่ให้เกิดโพรงในเนื้อคอนกรีตนะคะ ทำแบบนี้รับรองได้มาตรฐานแน่นอนค่ะ
8. เทคอนกรีตเสร็จแล้ว ปาดหน้าปูนฐานรากให้เรียบค่ะ
9. เทคอนกรีตฐานรากเสร็จเรียบร้อย เหลือเหล็กตอม่อสำหรับ เชื่อมกับเหล็ก J-Bolt สำหรับยึดแผ่นเพลทเสาโครงสร้างอาคารโกดังสำเร็จรูปค่ะ
10. เท Lean หรือคอนกรีตหยาบ เพื่อเตรียมวางเหล็กเสริมคานคอดิน
11. เสริมเหล็กคานคอดิน ตามแบบ
12. หาแนว และระดับ เพื่อติดตั้ง J-Bolt โดยในส่วนนี้ถือว่ามีความสำคัญมาก เพราะว่าโกดังสำเร็จรูปของเราผลิตจากโรงงาน ซึ่งจะต้องนำมาประกอบกับส่วนฐานรากนี้ โดยการยึดแผ่นเพลทเสา กับ J-Bolt
13. เมื่อตรวจสอบแนว ระยะ และระดับ ของ J-Bolt เรียบร้อย ก็พร้อมที่จะเข้าแบบและเทคานคอดินได้เลยค่ะ
14. เมื่อเทคานคอดินเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เตรียมปรับพื้นภายในโกดังสำเร็จรูปได้เลยค่ะ อย่าลืมทำการบดอัดด้วยนะคะ
15. ปรับพื้นก่อนการเทคอนกรีตด้วยทรายหยาบซักหน่อย พร้อมบดอัด เพื่อให้พื้นแน่นและราบเรียบ ปรับระดับได้ง่าย เตรียมเทคอนกรีตพื้นต่อไปค่ะ
16. ปรับระดับด้วยทรายหยาบเสร็จแล้ว ก็ปูทับหน้าด้วยแผ่นพลาสติกซักหน่อย เพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำของคอนกรีตเร็วเกินไป ช่วยให้คอนกรีตพื้นไม่แตกร้าวง่าย และได้กำลังคอนกรีตสูงสุดค่ะ
17. จากนั้นก็เตรียมผูกเหล็กเสริมพื้น ตามแบบได้เลยค่ะ
18. ทำการเทคอนกรีตพื้น โดยใช้คอนกรีตผสมเสร็จจากโรงงาน เพื่อให้ได้กำลังอัดของคอนกรีตตามแบบ ทำการปรับหน้าคอนกรีตให้ได้ระดับ จะได้ไม่เกิดปัญหาพื้นโกดังสำเร็จรูปเป็นแอ่งน้ำขังภายหลังนะคะ อ่อ!! แล้วอย่าลืมจี้คอนกรีตด้วยนะคะ จะได้ไม่เกิดโพรงในเนื้่อคอนกรีตค่ะ
19. ระหว่างเทคอนกรีตพื้นอย่าลืมเตรียมผิวหน้าคอนกรีตสำหรับงานขัดมัน หรือโกดังสำเร็จรูปบางที่อาจจะมีการทำผิว Epoxy ฉะนั้นในขั้นตอนนี้จะต้องเตรียมผิวคอนกรีตไว้ก่อนที่จะแข็งนะคะ
20. สำหรับโกดังหลังนี้ ได้ขัดมันพื้นเสร็จเป็นที่เรียบร้อย เตรียมติดตั้งเสาสำหรับโกดังสำเร็จรูปต่อไปได้เลยค่ะ
21. เท่านี้ก็ถือเป็นอันเสร็จสิ้นงานโครงสร้างคอนกรีตฐานราก คานคอดิน และพื้น สำหรับโกดัง โรงงานสำเร็จรูป แล้วค่ะ จากนั้นรอการติดตั้งโครงสร้างเหล็กเสา ผนัง หลังคา และงานเมทัลชีท จากทางโรงงานของเราอีกประมาณ 1 เดือน โกดังสำเร็จรูปก็พร้อมจะใช้งานได้แล้วคร่า!!!!
รับสร้างโกดังโรงงานสำเร็จรูปเริ่มต้นเพียงตร.ม.ละ 2,500 บาท รับประกันโครงสร้าง10ปี ออกแบบโดยวิศวกรผู้ชำนาญ สร้างเร็ว ไม่มีเสากลาง รับสร้างทั่วประเทศ
>สร้างเร็ว
>ราคาประหยัด
>ได้มาตรฐาน
>ออกแบบโดยวิศวกรมืออาชีพ
>งบไม่บานปลาย
>ออกแบบตามการใช้งานของลูกค้า
>กำหนดวันเสร็จชัดเจน
>ออกแบบประเมินราคา ฟรี!!!!
.>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
การรับประกัน : รับประกันโครงสร้าง 10 ปี รั่วซึม 1 ปี
***** โกดังสำเร็จรูป ออกแบบและควบคุมงานก่อสร้างโดยวิศวะกรทุกหลัง
#หรือสอบถามเพิ่มเติม
⭐️ณัฏฐ์ธยาน์⭐
https://www.happybynubdaow.com/category/8/โกดังสำเร็จรูป
http://www.warehouse2build.com/
http://happydaowwarehouse.blogspot.com/2015/09/blog-post.html?m=1
http://happydaow.blogspot.com/
http://www.happyfranchise.co.th/store/5
https://www.facebook.com/Happydaow-644597998966371/o
https://www.youtube.com/channel/UCTUIjBsOISQUEIBc6Z6Xj2Q?view_as=subscriber